กรมการศาสนา จัดประกวด"สวดโอ้เอ้วิหารราย"ค้นหาเยาวชนร่วมสืบสานมรดกวัฒนธรรม...
วันอาทิตย์ที่ 17 มีนาคม 2567 เวลา 09.00 น. นายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา เป็นประธาน การประกวดโอ้เอ้วิหารราย รอบคัดเลือก และรอบชิงชนะเลิศ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 พร้อมด้วยผู้บริหารกรมการศาสนา เจ้าหน้าที่ ครูและนักเรียนผู้เข้าร่วมการประกวด เข้าร่วมในพิธี ณ อาคารหอศิลป์แห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม
นายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวว่า กรมการศาสนา ได้กำหนดจัดการประกวดสวดโอ้เอ้วิหารราย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ทั้ง 3 ระดับ คือ ระดับประถมศึกษา ระดับมัธยมศึกษา และระดับอุดมศึกษา เพื่อคัดเลือกทีมที่ชนะการประกวด เข้ารับพระราชทานโล่รางวัลจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยรอบคัดเลือกและรอบชิงชนะเลิศ ในระดับประถมศึกษา จัดการประกวดวันเสาร์ที่ 16 มีนาคม 2567 ระดับมัธยมศึกษาและระดับอุดมศึกษา จัดการประกวดวันอาทิตย์ที่ 17 มีนาคม 2567 ณ อาคารหอศิลป์แห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งได้รับการตอบรับจากสถานศึกษาส่งนักเรียน นักศึกษา เข้าร่วมการประกวด ในระดับประถมศึกษา ประเภทชายล้วน จำนวน 11 ทีม ประเภทหญิงล้วน จำนวน 33 ทีม และประเภททีมผสม จำนวน 15 ทีม ระดับมัธยมศึกษา ประเภทชายล้วน จำนวน 18 ทีม ประเภทหญิงล้วน จำนวน 25 ทีม และประเภททีมผสม จำนวน 28 ทีม ระดับอุดมศึกษา ประเภททีมผสม จำนวน 11 ทีม ในแต่ทีมมี 10 คน (สำรองได้ไม่เกิน 4 คน)
โดยสถานศึกษาที่ส่งทีมเข้าประกวดโอ้เอ้วิหารราย และได้รับรางวัลทุกประเภท จะได้เข้าสวดโอ้เอ้วิหารราย ณ ศาลารายรอบพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง เนื่องในเทศกาลเข้าพรรษา ตามโบราณราชประเพณี
อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมากรมการศาสนา ได้จัดโครงการอบรมฝึกหัดสวดโอ้เอ้วิหารรายให้กับเยาวชนในแต่ละภูมิภาค คือ ภาคกลาง ระหว่างวันที่ 10 - 11 มกราคม 2567 ณ วัดตะโก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระหว่างวันที่ 17 - 18 มกราคม 2567 ณ วัดกลาง จังหวัดบุรีรัมย์ และ ภาคใต้ ระหว่างวันที่ 24 - 25 มกราคม 2567 ณ วัดพระมหาธาตุ จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยเล็งเห็นถึงความสำคัญของการสวดโอ้เอ้วิหารราย ซึ่งถือเป็นธรรมเนียมทางวัฒนธรรมของไทยที่มีมาอย่างยาวนานควรค่าแก่การอนุรักษ์ เป็นบทสวดที่ปฏิบัติและสืบทอดต่อกันมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์เป็นการอ่านกาพย์พระไชยสุริยาที่นำมาจากหนังสือมูลบทบรรพกิจ ซึ่งเป็นตำราเรียนขั้นปฐมภูมิของเด็กสมัยโบราณ เพื่อช่วยในการอ่านออกเสียงและผันวรรณยุกต์
โดยบทสวดดังกล่าวได้มีการสอดแทรกคติธรรมต่าง ๆ ที่สามารถใช้ในการดำรงชีวิตได้ ซึ่งปัจจุบันจากกระแสสื่อโซเชียลมีผู้ใช้บัญชี TikTok โพสต์คลิปวิดีโอของนักเรียนชายระดับชั้นมัธยมของโรงเรียนวัดสุทธิวราราม กำลังนั่งสวด
"โอ้เอ้วิหารราย" ภายในพระอุโบสถ ซึ่งเป็นบทสวดที่หลายคนไม่เคยได้ฟัง เนื่องจากคุณครูได้อัดคลิปไว้เพื่ออยากอนุรักษ์ความเป็นไทย การสวดนั้นทำให้รู้สึกได้ถึงความไพเราะ จึงนำออกมาเผยแพร่จนกลายเป็นไวรัลที่มีผู้รับชมกว่า 1,000,000 วิว โดยคุณครูผู้ฝึกซ้อมได้เปิดเผยว่า เคยพานักเรียนไปแข่งขันจนได้รางวัลชนะเลิศระดับประเทศมาแล้ว
ทำให้เยาวชนรุ่นหลังได้อนุรักษ์สืบสานและตระหนักถึงความสำคัญของการสวดโอ้เอ้วิหารราย และได้มีส่วนร่วมของการสืบสานธรรมเนียมความเป็นไทย...
__________________________
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น